ต่อจากกระทู้เดิมจ้า
http://pantip.com/topic/33123211
เรามั่นใจที่สุดในสามโลกค่ะ ว่าเรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไป เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ และได้รับตรงจากใจล้วนๆเช่นกัน
เราว่าเราทั้งคู่มีใจให้กันแล้วแหล่ะ ตั้งแต่ที่เรา Do Something กันมา ยิ้มให้กันบ่อยขึ้น นั่งทำการบ้านด้วยกัน โทรคุยกันเรื่องโน้นนี่ ทุกอย่างเป็นความรักวัยรุ่นที่น่ารักมาก (ไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้มาก่อน เพราะแฟนเก่าเยอะค่ะ) แอบคิดหน่อยๆ คงเป็นโปรโมชั่น แต่ต่อให้เป็นแบบนั้นแล้วทำไมละ เราตกลงกับตัวเองแล้วนี่นา เมื่อรู้สึกรักก็ปล่อยมันไป Let it go ค่ะ 55
ส่วนแฟนเก่า ขอแทนชื่อว่า A เขาเรียนห้องเดียวกันกับพี่ญาติเรา เขาเป็นผู้ชายด้วยกัน ก็ปรึกษากันเป็นธรรมดา เราสนิทกับเพื่อนAเกือบทุกคนเลยค่ะ เพราะทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆ ทุกคนเขาเชียร์ให้คืนดีกัน เพราะการสร้างภาพของAในหลายๆครั้ง ทำให้ทุกคนเชื่อว่าพวกเรารักกันดี ไม่มีปัญหา อัพรูปลงเฟสบุ๊คก็น่ารักดีนี่นา ทำไมเลิกกันเหรอ บลาๆๆๆ (เบื้องหลังรูปเหล่านั้น จะผ่านการติและความเยอะอันน่าเอือมระอามาก่อน ใครจะรู้คะ ต่อหน้าคนอื่นเขาสร้างภาพทุกอย่างให้ตัวเองดูดี) แต่เรายังยืนยันคำเดิมค่ะ เลิกคือเลิก โอกาสหมดไปแล้ว
วันที่ 3 หลังจากการ Do Something เราอยากไปหาพี่Tที่หอค่ะ เลยขี่รถไปหาแต่เช้าก่อนเข้าเรียน เรามีเรียนบ่ายช่วงเช้าว่างยาวเลยค่ะ พอไปถึงพี่เขาอยู่กับเจ้าของหอ กำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย เจ้าของหอบอกว่า จะปรับเป็นหอหญิง แต่Tกับน้องชายอยู่ต่อ ในฐานะหลาน (ความประพฤติดีไม่เกเร) เราก็ได้รู้อีกหนึ่งแง่มุมที่คนอื่นมองเขา ว่าพี่เขาเป็นแบบไหน ในสายตาเรา ภายนอกพี่เขาเป็นคนหน้าตายมากๆ ใส่แว่น ดูเป็นเด็กเรียนคนนึง สูง หุ่นดี ผิวขาว หน้าคมเข้ม ผมเนี๊ยบ แววตาสุขุมนิ่งลึกค่ะ แต่เวลาที่พี่เขาแสดงความรักให้เราคือ หอมฟอดใหญ่ๆ กอดแบบแน่นๆ นิ่งๆ พร้อมกับบอกว่า I LOVE YOU MY HONEY ฟินมากๆเลยค่ะ หน้าตายก็โรแมนติกอยู่น๊า
เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลาค่ะ นอกจากกลับบ้านและเวลาเรียน กินข้าวทุกที่ที่อยากกิน ตระเวนกินกาแฟทั่วเมือง ไปช๊อปทุกอย่างที่อยากได้ (เก็บกดค่ะ เมื่อก่อนต้องเจียดเงินให้อีกคนใช้ แต่ตอนนี้ออกเงินช่วยกันเพื่อไปเที่ยวเลยมีเยอะ) พี่เขาไม่เคยลืมที่จะใส่หมวกกันน็อกให้เรา จูบเราในทุกๆที่ทุกครั้งที่พวกเราอยากจะจูบ ลูบหัวแล้วยิ้มให้ทุกครั้งที่เอ็นดูเรา และที่สำคัญ เราจะจับมือกันเสมอ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เราบอกรักกันทุกวันจากใจค่ะ และฉันไม่รู้สึกเบื่อมันเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพูดออกมารู้สึกว่ายิ่งมีพลังค่ะ ไม่คิดว่ามันพร่ำเพรื่อเลย (เป็นเพราะรักกันใหม่ๆรึเปล่า... จะใช่ไม่ใช่ก็ยังดีกว่าไม่มีรักเลยเนอะ)
Aไม่เคยลดละค่ะ เขาอยากจะขอคืนดีกับเรา ทำทุกวิถีทาง แม้แต่คำพูดสกปรกก็ยังไม่เคยเปลี่ยน เราอยู่ในไลน์กลุ่มเพื่อนๆของเขาด้วยค่ะ แต่เราบอกเขาไปว่าไม่เล่นไลน์แล้ว เขาเลยไม่ได้เอาเราออกจากกลุ่ม (สงสัยลืม) พอเราเข้าไปดู เขาพูดกันเรื่องเราทั้งนั้นเลยค่ะ บ้างก็เห็นใจ บ้างด่า บ้างแค้น เราไปทำอะไรให้กันเนี้ย เพื่อนAเขาทักเฟสเรามา เพื่อถามขอโอกาสให้Aได้มั๊ย เราก็ปฏิเสธไปค่ะ แต่เขาก็ยังขอ เราเลยบอกไปว่า เราไม่ต้องการคำพูดเดิมๆ ไปทำมาให้เห็นก่อนค่อยเชื่อ (เปิดทางให้เขาซะงั้น เพราะเรารู้ว่าคนอย่างเขาทำไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ได้ดูถูกนะคะ แต่ทุกคำพูดของเขาล้วนมาจากการสร้างภาพ ถ้าจะทำจริงๆมันยากมาก) ทั้งเรื่องจะดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะเขาอ้วน! ทั้งเรื่องจะสอบเข้าทำงาน ทั้งเรื่องเรียนปัจจุบัน ทั้งเรื่องความรับผิดชอบตรงต่อเวลา ทั้งเรื่องดูแลคนในครอบครัว และทั้งเรื่องความสุภาพของเขา ไม่เป็นไรค่ะ เชิญทำไปเลยเราจะรอดู
ตอนนี้เราสถานะ “โสด” นะคะ กับพี่Tยังไม่เปิดเผยค่ะ แต่หลายๆคนที่เรียนเขาก็รู้แล้ว เพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แม่ค้าขายข้าวขายน้ำก็จำเราได้จนเป็นคู่ถูกแซวไปแล้วค่ะ และในขณะเดียวกัน ทางฝั่งAก็พยายามมากเช่นกันค่ะ เขายังไม่รู้เรื่องเรากับพี่T เราบอกเขาว่า กรุณารักษาระยะห่างค่ะ เลิกมาจับมือถือแขนเราได้แล้ว ไม่ชอบ และเราไม่ชอบคนจู้จี้จุกจิก ซึ่งAยังทำเหมือนเดิมค่ะ เราไปกินข้าวข้างนอกที่เรียน แม่เราโทรมาไม่ได้ยิน แม่เรานึกว่าเรายังไม่เลิกกันก็โทรหาA และเขาก็อาสาตามหาเราให้แม่เอง (แลดูดีนะ) แต่หาอ้อมเลย ไม่เจอ สงสัยเราไม่ได้เข้าเรียนแน่ๆเลย บลาๆๆๆ พูดให้แม่เราไม่สบายใจทำเพื่อ!! นี่เรียกว่าช่วยเหรอคะ ไม่รู้แล้วยังมาทำให้แย่ลงไปอีก น่าเบื่อจริงๆ
ตอนที่Aเป็นแฟนเรา เขาไม่แม้แต่จะมาเหยียบบ้านเราด้วยความเต็มใจ เขาทำตัวแบ่งแยก พยายามให้ผู้ใหญ่เข้าหาตัวเอง จะบ้าเหรอ!! พ่อแม่เราไม่ง้อ เขาก็มาโวย จะไม่มาอีกแล้ว บ้านนี้ไม่ดี น่ากลัว อึกอัด แต่พอเลิกกันแล้ว ตามเรามาบ้านค่ะ คงอยากจะแก้ตัว แต่เราบอกแล้ว ทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าเยอะกับเรา รักษาระยะห่างหน่อยนะ ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง ดันมากดดันเรา ทำให้เราอึดอัด มันไม่ได้โรแมนติกเลย มันดูน่ารำคาญมากๆค่ะ ไม่ใช่เพราะไม่รักแล้วคิดแบบนี้ มันเหมือนเสแทร้งทำชัดๆ มาช่วยล้างถ้วยล้างจาน มายิ้มหัวเราะที่บ้านเรา มากินข้าว มานั่งคุยโน่นนี่ ทั้งๆที่ผ่านมามองว่ามันไม่ดี เขาทำดีครั้งนี้เพียงเพราะอยากได้เราคืนเท่านั้น
และที่หยามศักดิ์ศรีผู้หญิงอย่างเราที่สุด และเราจะไม่เหลียวมองแม้การกระทำเพื่อแก้ตัวของเขาคือ ตอนAจะกลับบ้าน เขาบอกเราว่า “ยังรออยู่นะ” พร้อมกับ ................หยิบถุงยางออกมา.................. แล้วยิ้มให้เรา!!!! บอกตรงๆมันน่าสมเพชมากๆเลยค่ะ ทุเรศสิ้นดี ชัดเจนเลยค่ะว่านิสัยเดิมๆเขาไม่มีทางทิ้ง
คืนวันนั้นเอง (4วันหลังจาก Do Somethingกับพี่ T) Aโทรหาเรา บอกรักเรา เราอึดอัดมาก และบอกเขาไปตรงๆเลยว่า เรามีพี่Tแล้วนะ Aก็แมนมากค่ะ บอกเข้าใจ ฝากน้องด้วยนะT อย่าทำให้มันตกต่ำ บลาๆๆๆ วางสายไป เรากับพี่T โล่งมากๆที่บอกเขาแล้ว จะได้ไม่ค้างคาอะไรอีก
-------------------------------------------------------------มีต่อจ้า------------------------------------------------------------
(18+) เชื่อหรือไม่? รักเพราะเซ็กส์ (กับผู้ชายนอกสเปค) มีอยู่จริง ภาค2
เรามั่นใจที่สุดในสามโลกค่ะ ว่าเรื่องราวที่เราจะเล่าต่อไป เป็นความรู้สึกที่ออกมาจากใจ และได้รับตรงจากใจล้วนๆเช่นกัน
เราว่าเราทั้งคู่มีใจให้กันแล้วแหล่ะ ตั้งแต่ที่เรา Do Something กันมา ยิ้มให้กันบ่อยขึ้น นั่งทำการบ้านด้วยกัน โทรคุยกันเรื่องโน้นนี่ ทุกอย่างเป็นความรักวัยรุ่นที่น่ารักมาก (ไม่เคยมีโมเมนต์แบบนี้มาก่อน เพราะแฟนเก่าเยอะค่ะ) แอบคิดหน่อยๆ คงเป็นโปรโมชั่น แต่ต่อให้เป็นแบบนั้นแล้วทำไมละ เราตกลงกับตัวเองแล้วนี่นา เมื่อรู้สึกรักก็ปล่อยมันไป Let it go ค่ะ 55
ส่วนแฟนเก่า ขอแทนชื่อว่า A เขาเรียนห้องเดียวกันกับพี่ญาติเรา เขาเป็นผู้ชายด้วยกัน ก็ปรึกษากันเป็นธรรมดา เราสนิทกับเพื่อนAเกือบทุกคนเลยค่ะ เพราะทำกิจกรรมด้วยกันบ่อยๆ ทุกคนเขาเชียร์ให้คืนดีกัน เพราะการสร้างภาพของAในหลายๆครั้ง ทำให้ทุกคนเชื่อว่าพวกเรารักกันดี ไม่มีปัญหา อัพรูปลงเฟสบุ๊คก็น่ารักดีนี่นา ทำไมเลิกกันเหรอ บลาๆๆๆ (เบื้องหลังรูปเหล่านั้น จะผ่านการติและความเยอะอันน่าเอือมระอามาก่อน ใครจะรู้คะ ต่อหน้าคนอื่นเขาสร้างภาพทุกอย่างให้ตัวเองดูดี) แต่เรายังยืนยันคำเดิมค่ะ เลิกคือเลิก โอกาสหมดไปแล้ว
วันที่ 3 หลังจากการ Do Something เราอยากไปหาพี่Tที่หอค่ะ เลยขี่รถไปหาแต่เช้าก่อนเข้าเรียน เรามีเรียนบ่ายช่วงเช้าว่างยาวเลยค่ะ พอไปถึงพี่เขาอยู่กับเจ้าของหอ กำลังคุยกันเรื่อยเปื่อย เจ้าของหอบอกว่า จะปรับเป็นหอหญิง แต่Tกับน้องชายอยู่ต่อ ในฐานะหลาน (ความประพฤติดีไม่เกเร) เราก็ได้รู้อีกหนึ่งแง่มุมที่คนอื่นมองเขา ว่าพี่เขาเป็นแบบไหน ในสายตาเรา ภายนอกพี่เขาเป็นคนหน้าตายมากๆ ใส่แว่น ดูเป็นเด็กเรียนคนนึง สูง หุ่นดี ผิวขาว หน้าคมเข้ม ผมเนี๊ยบ แววตาสุขุมนิ่งลึกค่ะ แต่เวลาที่พี่เขาแสดงความรักให้เราคือ หอมฟอดใหญ่ๆ กอดแบบแน่นๆ นิ่งๆ พร้อมกับบอกว่า I LOVE YOU MY HONEY ฟินมากๆเลยค่ะ หน้าตายก็โรแมนติกอยู่น๊า
เราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอดเวลาค่ะ นอกจากกลับบ้านและเวลาเรียน กินข้าวทุกที่ที่อยากกิน ตระเวนกินกาแฟทั่วเมือง ไปช๊อปทุกอย่างที่อยากได้ (เก็บกดค่ะ เมื่อก่อนต้องเจียดเงินให้อีกคนใช้ แต่ตอนนี้ออกเงินช่วยกันเพื่อไปเที่ยวเลยมีเยอะ) พี่เขาไม่เคยลืมที่จะใส่หมวกกันน็อกให้เรา จูบเราในทุกๆที่ทุกครั้งที่พวกเราอยากจะจูบ ลูบหัวแล้วยิ้มให้ทุกครั้งที่เอ็นดูเรา และที่สำคัญ เราจะจับมือกันเสมอ แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือ เราบอกรักกันทุกวันจากใจค่ะ และฉันไม่รู้สึกเบื่อมันเลยแม้แต่น้อย ยิ่งพูดออกมารู้สึกว่ายิ่งมีพลังค่ะ ไม่คิดว่ามันพร่ำเพรื่อเลย (เป็นเพราะรักกันใหม่ๆรึเปล่า... จะใช่ไม่ใช่ก็ยังดีกว่าไม่มีรักเลยเนอะ)
Aไม่เคยลดละค่ะ เขาอยากจะขอคืนดีกับเรา ทำทุกวิถีทาง แม้แต่คำพูดสกปรกก็ยังไม่เคยเปลี่ยน เราอยู่ในไลน์กลุ่มเพื่อนๆของเขาด้วยค่ะ แต่เราบอกเขาไปว่าไม่เล่นไลน์แล้ว เขาเลยไม่ได้เอาเราออกจากกลุ่ม (สงสัยลืม) พอเราเข้าไปดู เขาพูดกันเรื่องเราทั้งนั้นเลยค่ะ บ้างก็เห็นใจ บ้างด่า บ้างแค้น เราไปทำอะไรให้กันเนี้ย เพื่อนAเขาทักเฟสเรามา เพื่อถามขอโอกาสให้Aได้มั๊ย เราก็ปฏิเสธไปค่ะ แต่เขาก็ยังขอ เราเลยบอกไปว่า เราไม่ต้องการคำพูดเดิมๆ ไปทำมาให้เห็นก่อนค่อยเชื่อ (เปิดทางให้เขาซะงั้น เพราะเรารู้ว่าคนอย่างเขาทำไม่ได้หรอกค่ะ ไม่ได้ดูถูกนะคะ แต่ทุกคำพูดของเขาล้วนมาจากการสร้างภาพ ถ้าจะทำจริงๆมันยากมาก) ทั้งเรื่องจะดูแลสุขภาพตัวเอง เพราะเขาอ้วน! ทั้งเรื่องจะสอบเข้าทำงาน ทั้งเรื่องเรียนปัจจุบัน ทั้งเรื่องความรับผิดชอบตรงต่อเวลา ทั้งเรื่องดูแลคนในครอบครัว และทั้งเรื่องความสุภาพของเขา ไม่เป็นไรค่ะ เชิญทำไปเลยเราจะรอดู
ตอนนี้เราสถานะ “โสด” นะคะ กับพี่Tยังไม่เปิดเผยค่ะ แต่หลายๆคนที่เรียนเขาก็รู้แล้ว เพราะเราไปไหนมาไหนด้วยกันตลอด แม่ค้าขายข้าวขายน้ำก็จำเราได้จนเป็นคู่ถูกแซวไปแล้วค่ะ และในขณะเดียวกัน ทางฝั่งAก็พยายามมากเช่นกันค่ะ เขายังไม่รู้เรื่องเรากับพี่T เราบอกเขาว่า กรุณารักษาระยะห่างค่ะ เลิกมาจับมือถือแขนเราได้แล้ว ไม่ชอบ และเราไม่ชอบคนจู้จี้จุกจิก ซึ่งAยังทำเหมือนเดิมค่ะ เราไปกินข้าวข้างนอกที่เรียน แม่เราโทรมาไม่ได้ยิน แม่เรานึกว่าเรายังไม่เลิกกันก็โทรหาA และเขาก็อาสาตามหาเราให้แม่เอง (แลดูดีนะ) แต่หาอ้อมเลย ไม่เจอ สงสัยเราไม่ได้เข้าเรียนแน่ๆเลย บลาๆๆๆ พูดให้แม่เราไม่สบายใจทำเพื่อ!! นี่เรียกว่าช่วยเหรอคะ ไม่รู้แล้วยังมาทำให้แย่ลงไปอีก น่าเบื่อจริงๆ
ตอนที่Aเป็นแฟนเรา เขาไม่แม้แต่จะมาเหยียบบ้านเราด้วยความเต็มใจ เขาทำตัวแบ่งแยก พยายามให้ผู้ใหญ่เข้าหาตัวเอง จะบ้าเหรอ!! พ่อแม่เราไม่ง้อ เขาก็มาโวย จะไม่มาอีกแล้ว บ้านนี้ไม่ดี น่ากลัว อึกอัด แต่พอเลิกกันแล้ว ตามเรามาบ้านค่ะ คงอยากจะแก้ตัว แต่เราบอกแล้ว ทำอะไรก็ทำไป แต่อย่าเยอะกับเรา รักษาระยะห่างหน่อยนะ ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว แทนที่จะเอาเวลาไปพัฒนาตัวเอง ดันมากดดันเรา ทำให้เราอึดอัด มันไม่ได้โรแมนติกเลย มันดูน่ารำคาญมากๆค่ะ ไม่ใช่เพราะไม่รักแล้วคิดแบบนี้ มันเหมือนเสแทร้งทำชัดๆ มาช่วยล้างถ้วยล้างจาน มายิ้มหัวเราะที่บ้านเรา มากินข้าว มานั่งคุยโน่นนี่ ทั้งๆที่ผ่านมามองว่ามันไม่ดี เขาทำดีครั้งนี้เพียงเพราะอยากได้เราคืนเท่านั้น
และที่หยามศักดิ์ศรีผู้หญิงอย่างเราที่สุด และเราจะไม่เหลียวมองแม้การกระทำเพื่อแก้ตัวของเขาคือ ตอนAจะกลับบ้าน เขาบอกเราว่า “ยังรออยู่นะ” พร้อมกับ ................หยิบถุงยางออกมา.................. แล้วยิ้มให้เรา!!!! บอกตรงๆมันน่าสมเพชมากๆเลยค่ะ ทุเรศสิ้นดี ชัดเจนเลยค่ะว่านิสัยเดิมๆเขาไม่มีทางทิ้ง
คืนวันนั้นเอง (4วันหลังจาก Do Somethingกับพี่ T) Aโทรหาเรา บอกรักเรา เราอึดอัดมาก และบอกเขาไปตรงๆเลยว่า เรามีพี่Tแล้วนะ Aก็แมนมากค่ะ บอกเข้าใจ ฝากน้องด้วยนะT อย่าทำให้มันตกต่ำ บลาๆๆๆ วางสายไป เรากับพี่T โล่งมากๆที่บอกเขาแล้ว จะได้ไม่ค้างคาอะไรอีก
-------------------------------------------------------------มีต่อจ้า------------------------------------------------------------